หากเริ่มต้นหัดตีเทนนิสตั้งแต่ยังเด็ก จะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ฝึกสายตา ประสาทสัมผัส ปฏิกริยาของร่างกาย และการใช้กล้ามเนื้อต่างๆ รวมถึงช่วยส่งเสริมพัฒนาจิตใจ อารมณ์ และสังคมอีกด้วย
ในช่วงแรกเด็ก ยังมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไม่เท่าผู้ใหญ่ จึงไม่เหมาะสมต่อการตีลูกเทนนิสน้ำหนักจริง เนื่องจากเด็กจะไม่สามารถตีลูกด้วยทักษะ วงสวิงที่ถูกต้อง รวมถึงไม่สามารถรับลูกได้ทัน และอาจเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย
ดังนั้น จึงควรเลือกใช้อุปกรณ์เทนนิสสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เช่น ลูกเทนนิสที่มีแรงอัดน้อยกว่าปกติ เพื่อความเหมาะสมต่อกล้ามเนื้อของเด็ก ช่วยให้เด็กสามารถตีลูกได้อย่างเต็มวง พัฒนาทักษะในการตีเทนนิสได้อย่างครบถ้วน และสนุกกับเกมส์มากขึ้น แล้วค่อยปรับเปลี่ยนไปตามวัย
โดยลูกเทนนิสสำหรับเด็ก สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้
🎾ลูกบอลสีแดง (Red ball) สำหรับเด็กวัย 5-8 ปี เป็นลูกเทนนิสแรงอัด 25% มีขนาดใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย เคลื่อนที่ช้าที่สุด จึงมีจังหวะการตีที่สบาย เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวของร่างกายที่ถูกต้อง และตีอย่างเต็มประสิทธิภาพ
🎾ลูกบอลสีส้ม (Stage2) สำหรับเด็กวัย 8-10 ปี เป็นลูกเทนนิสที่มีแรงอัด 50% ขนาดเท่าลูกเทนนิสปกติ แต่เคลื่อนไหวช้า และเบากว่า สามารถเล่นได้หลากหลายรูปแบบ
🎾ลูกบอลจุดสีเขียว (Stage1) สำหรับเด็กวัย 11 ปีขึ้นไป เป็นลูกเทนนิสที่มีแรงอัด 75% มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับลูกเทนนิสปกติมากที่สุด เพื่อให้เด็กคุ้นชินกับลูกเทนนิสมากขึ้น สามารถตีได้ทั่วทั้งสนาม มักใช้ในการแข่งขันเทนนิสสำหรับเด็ก
👉 นอกจากนี้ ลูกเทนนิสแรงอัดน้อย ยังสามารถใช้เล่นเพื่อความสนุกสนานสำหรับ ผู้หญิง หรือ ผู้สูงอายุ ไปจนถึงมือใหม่ที่พึ่งเริ่มเล่นเทนนิสได้เช่นกัน
การเล่นกีฬาเทนนิส นอกจากเป็นการออกกำลังกายและพัฒนาศักยภาพร่างกายแล้ว ยังช่วยพัฒนาสมองและจิตใจด้วย เราควรเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับวัย เพื่อพัฒนาการที่ถูกต้อง และมีความสุขทุกครั้งที่ได้เล่นเทนนิสค่ะ “