แบดมินตันเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยความคล่องแคล่วว่องไว ว่ากันว่า ความเร็วในการรับลูกโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 400 กม./ชม. เลยทีเดียว และยังต้องวิ่งเคลื่อนไหวไปทุกทิศทาง ทั้งการวิ่งไปข้างหน้า ด้านข้างในมุมเฉียง และด้านหลัง
หลายคนจึงมีปัญหาเคลื่อนไหวไม่เป็นไปตามที่ต้องการ หรือวิ่งไปรับลูกไม่ทัน ส่วนใหญ่สาเหตุมักมาจาก กล้ามเนื้อขาดการฝึกความคล่องตัว ซึ่งการฝึกฟุตเวิร์ค เป็นหัวใจสำคัญของการเล่นกีฬาแบดมินตัน
การฟุตเวิร์คของแบดมินตัน จะประกอบด้วย 2 สิ่ง
- ตำแหน่งการยืนบนคอร์ด
- ตำแหน่งการวางเท้า
ประโยชน์ของการฟุตเวิร์ค
- ช่วยประหยัดแรง ด้วยการลดจำนวนก้าวที่ไม่จำเป็น
- มีเวลาในการจัดระเบียบร่างกายในการตีลูก
- เพิ่มความเร็วในการวิ่งอย่างมีประสิทธิภาพ
เคล็ดลับการทำฟุตเวิร์ค มี 3 ข้อ ดังนี้
1) ตำแหน่งบนคอร์ด-กลับมาที่เดิมเสมอ
ผู้เล่นมือใหม่มักจะยืนอยู่ตำแหน่งล่าสุดที่ตีลูก แต่สิ่งที่ควรทำคือไม่ว่าจะตีลูกตรงไหนของสนามต้องกลับมาเข้ากลางของพื้นที่เสมอ เพราะจะทำให้วิ่งไปรับลูกทันและลดจำนวนก้าวลง
2) จัดท่าให้ถูกและรักษาบาลานซ์ร่างกาย
บางครั้งอาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องยืดแขนและขา เพื่อเอื้อมมือไปรับลูก ซึ่งการเคลื่อนไหวมากและรวดเร็ว จะมีผลต่อบาลานซ์ร่างกาย และยังชะลอการก้าวกลับมาที่เดิม วิธีแก้ไขคือ ควรวางน้ำหนักลงบนขาข้างที่แข็งแรงแล้วเท้ายึดไว้กับพื้น ส่วนขาอีกข้างเคลื่อนไหวให้ว่องไว เพื่อที่จะได้ยืดตัวและออกไปรับลูกได้ทุกทิศทาง จึงทำให้กลับมาเข้ากลางได้ง่าย โดยไม่สูญเสียบาลานซ์และขาไม่ล้ามาก
3) เท้าเบาว่องไว และ เรียนรู้วิธีการกระโดด
การฝึกเท้าเบาและว่องไวจะช่วยเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น การกระโดดเล็กน้อยจะช่วยตอบสนองรับลูกได้เร็วขึ้นโดยเฉพาะลูกโด่ง และยังมีประโยชน์ในการคุมพื้นที่แดนหลังหรือมุมอื่นๆ
วิธีการกระโดดที่ดีที่สุด คือ การยกเท้าขึ้นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ แล้วเหยียบลงพื้นด้วยเท้าสองข้างเพื่อกระจายแรงกระแทกที่หัวเข่า
3 Tips เทคนิคพัฒนาฟุตเวิร์ค – “ขึ้นอยู่กับจำนวนก้าวที่วิ่งไปรับลูก”
- ถ้าอยู่ในแดนหลังและกำลังจะวิ่งไปที่หน้าเน็ต ไม่ควรวิ่งไปรับลูกเกิน 4 ก้าว
- จำนวนก้าวจากตำแหน่งเดิมถึงมุมใดๆ ของสนาม ไม่ควรห่างเกิน 2 ก้าว
- ถ้าจะป้องกันลูกด้านข้าง ควรห่างแค่ 1 ก้าวเท่านั้น
หลังจากที่ได้อ่านแล้ว เพื่อนๆ ลองปฏิบัติตามดูนะคะ เมื่อฝึกซ้อมฟุตเวิร์กจนร่างกายจดจำจังหวะได้ จะสามารถทำให้เคลื่อนไหวในมุมต่างๆ ของคอร์ทแบดได้รวดเร็ว และสิ้นเปลืองพลังงานให้น้อยที่สุด”